8 ขั้นตอนสู่การเป็นสุดยอดก๊อปปีไรเตอร์ (copywriter)
ก๊อปปีไรเตอร์ (copywriter) คือผู้ที่รับผิดชอบงานเขียนข้อความโฆษณา โดยไม่ว่าจะเขียนออกมาในแนวทางไหน ต่างก็มีเป้าหมายสำคัญคือเพื่อขายสินค้าหรือบริการให้ได้ ถ้าหากคุณต้องการเป็นก๊อปปีไรเตอร์ที่สามารถสร้างงานคุณภาพ ต่อไปนี้คือ 8 ขั้นตอนสำคัญสู่การเป็นก๊อปปีไรเตอร์มืออาชีพ
1. เข้าใจผลิตภัณฑ์
ศึกษาข้อมูลทำความเข้าใจคุณสมบัติต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นแนวทางในการเขียนก๊อปปี (copy)
อันดับแรกคือคุณต้องเข้าใจก่อนว่า ผลิตภัณฑ์ที่คุณจะเขียนก๊อปปี (copy) หรือข้อความโฆษณาให้นั้นมีคุณสมบัติอย่างไร เหมือนหรือแตกต่างจากคู่แข่งในจุดไหนบ้าง ไปจนถึงราคาและสถานที่ขาย การเข้าใจสินค้าและบริการอย่างถ่องแท้ จะช่วยให้คุณสามารถเขียนเนื้อหาให้น่าสนใจได้
2. รู้จักกลุ่มเป้าหมายของสินค้าและบริการ
การระดมสมองเรียนรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของสินค้าคือกลุ่มไหน จะช่วยให้การเขียนก๊อปปี้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้น
ก่อนจะเขียนก๊อปปี คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณกำลังพูดอยู่กับใคร ใครคือกลุ่มเป้าหมายหลักของสินค้าและบริการนี้ (ซึ่งรวมถึงคนที่อาจเปลี่ยนใจมาใช้สินค้าเรา) คุณต้องเรียนรู้ว่าพวกเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือถ้าใช้ได้ทั้งชายและหญิง ก็ต้องดูว่ามีแนวโน้มเป็นเพศไหนมากกว่า ช่วงอายุส่วนใหญ่ ลักษณะร่วม ความต้องการ และปัญหาของพวกเขา ภาษาที่พวกเขาใช้เป็นอย่างไร คุณถึงจะรู้ว่า ควรเขียนอย่างไรเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ให้คนกลุ่มนี้
3. วางแผนการเขียนโดยทำงานร่วมกันกับอาร์ตไดเร็คเตอร์ (art director)
เพื่อให้เป้าหมายของงานไปทางเดียวกันทั้งในส่วนของ copy และ key visual การประชุมกับ art director จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ
ก่อนเริ่มเขียน คุณต้องทำความเข้าใจบรีฟลูกค้าก่อนแล้วจึงวางแผนการเขียน โดยกำหนดเป้าหมายของสิ่งที่คุณจะเขียน ตามปกติก๊อปปีไรเตอร์จะทำงานร่วมกับอาร์ตไดเร็คเตอร์ที่ออกแบบ key visual ซึ่งทั้งสองคนจะต้องวาง concept และ creative direction ร่วมกันก่อน หรือต่างฝ่ายต่างไปคิดงานกันมาก่อนแล้วมา brainstorm กัน อันนี้แล้วแต่การทำงานของแต่ละคู่ แต่ที่แน่ ๆ copywriting ที่ดีจะต้องมีความเชื่อมโยงกับ key visual เพราะข้อความกับภาพต้องไปด้วยกัน ส่งเสริมซึ่งกันและกัน
4. ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย
การใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาของคุณได้อย่างลึกซึ้ง ดังนั้น คุณควรเลือกใช้คำที่มีพลัง สั้นกระชับ ไม่ซับซ้อน
5. รู้จักใช้คำที่มีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน
ลองนึกภาพว่า ย่อหน้าที่คุณกำลังอ่านปรากฏคำซ้ำ ๆ กันหลายที่ เนื้อหานั้นจะดูน่าเบื่อชวนง่วงโดยทันที ในทางตรงกันข้าม หากย่อหน้าที่คุณอ่านมีการหลากคำ หรือเลือกใช้คำที่พ้องความหมายให้หลากหลายอย่างเหมาะสม เชื่อว่า ย่อหน้านั้นจะดูน่าสนใจขึ้นมาทันที
6. เน้นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน
หากเนื้อหาที่เขียนเน้นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย พวกเขาจะรู้สึกเชื่อมโยงและอ่านหรือดูจนจบ ยิ่งเนื้อหานั้นประกอบไปกับภาพที่น่าสนใจด้วยแล้ว จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพของงานโฆษณาชิ้นนั้นขึ้นมาทันที
7. ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของเนื้อหา
เพื่อให้งานเขียนก๊อปปี้เผยแพร่ออกไปอย่างถูกต้องครบถ้วน ต้องตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาทุกครั้ง
ก๊อปปีไรเตอร์ต้องอ่านงานเขียนของตัวเอง ต้องใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของเนื้อหา ขั้นตอนของการเขียน-อ่านทวน-ตรวจสอบแก้ไข-พิสูจน์อักษร (write, read, edit and proofread) จึงเป็นสิ่งที่ก๊อปปีไรเตอร์ต้องทำก่อนเผยแพร่ชิ้นงานออกไป
8. ปรับปรุงและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ฝึกฝน พัฒนาทักษะการเขียนก๊อปปี เพื่อเพิ่มความหลากหลาย สไตล์ในการเขียนงานที่น่าสนใจ
การเขียนก๊อปปี้เป็นทักษะที่ฝึกฝนและพัฒนาได้ โดยอาศัยการอ่านให้เยอะ อ่านให้หลากหลาย เพื่อสะสมคลังคำศัพท์ ศึกษาภาษาที่ใช้และสไตล์การเขียนหลาย ๆ แนว รวมไปถึงการดูหนัง ฟังเพลง เพื่อเรียนรู้ทักษะการเล่าเรื่องหลาย ๆ แบบ ตลอดจนเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อฝึกการ research ข้อมูล ขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของสื่อต่าง ๆ และก้าวทันการตลาดยุคใหม่
สุดท้ายนี้ ขอให้คุณรู้ว่า การจะเป็นสุดยอดก๊อปปีไรเตอร์ได้นั้น คุณต้องรักทั้งการเขียน การอ่าน และการเล่าเรื่อง เพราะงานของคุณจะวนเวียนอยู่กับสิ่งเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตั้งคำถามให้เป็น และจับประเด็นให้ถูก เพราะลูกค้าอยู่กับสินค้าและบริการของเขาทุกวัน ข้อมูลทุกอย่างจึงสำคัญไปหมดในสายตาลูกค้า ก๊อปปีไรเตอร์ที่ดีจึงต้องรู้จัก “รวบตึง” ประเด็นที่ต้องการจะสื่อสารให้อยู่ในข้อความที่มองปราดเดียวก็รู้เรื่องเข้าใจ